วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557

การสร้างความมันคงทางการเงิน

 ประกันชีวิต,ไทยประกันชีวิต

ชื่อหรือไม่... คำตอบของคนส่วนใหญ่เกือบร้อยทั้งร้อย จะนึกถึงภาพคนที่มี “รายได้สูงๆ” “มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย” หรือ “คนที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย” เป็นลำดับต้นๆ เพราะรายได้และทรัพย์สินเป็นเหมือนสิ่งที่แสดงฐานะทางสังคม สื่อให้เห็นถึงความมั่งคั่งร่ำรวยของบุคคล
            จึงไม่ใช่เรื่องแปลก... ที่ทุกวันนี้ เราเห็นผู้คนวิ่งวุ่นอยู่กับการทำงานอย่างหนัก เพื่อหาเงินมาจับจ่ายใช้สอยซื้อข้าวของ เครื่องใช้ต่างๆ ไว้สร้างความสุขความสะดวกสบายให้ตนเอง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร หากคนๆ นั้นรู้จักกินอยู่อย่างพอดี ไม่พยายามก่อหนี้ และมีเงินเก็บออมพอประมาณ แต่สำหรับคนที่ชอบกินอยู่เกินฐานะ ใช้จ่ายมากกว่าที่หาได้ ดิ้นรนกู้หนี้ยืมสิน   ผ่อนทุกอย่างในชีวิตเท่าที่จะผ่อนได้ คนเหล่านี้แม้จะมีเฟอร์นิเจอร์รอบกาย แต่หนี้ก็รอบตัว อย่างนี้เราถือว่ายังไม่มั่งคั่ง    เพราะยังดิ้นรนผ่อนเดือนชนเดือนอยู่
   ความมั่งคั่ง” คือ เงินที่เหลืออยู่ หลังจากที่นำทรัพย์สินทั้งหมดของคุณ ลบด้วยหนี้สินทั้งหมดของคุณ 
สรุปง่ายๆ เป็นสมการได้ดังนี้  >>> อ่านต่อ

By
http://www.thailifeclub.com
http://cyber.thailife.com/01253940

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

ขอเป็นที่1ในใจคนไทย บริษัท ไทยประกันชีวีต จำกัด

ขอเป็นที่1ในใจคนไทย
“ไชย ไชยวรรณ” ปรับทัพ “ไทยประกันชีวิต” ครั้งใหญ่เปลี่ยนวิสัยทัศน์–รีแบรนด์ ยกองค์กรขึ้นเคียงข้างสังคมไทย ประกาศไม่ ต้องการทำกำไรสูงสุด ขอแค่เป็นบริษัทประกันชีวิตเบอร์ 1 ในหัวใจคนไทยเสมอเมื่อคิดถึงความรัก และการสร้างหลักประกันในชีวิต
นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิตได้ประกาศปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และพันธกิจในการดำเนินธุรกิจใหม่ เพื่อก้าวสู่การเป็น People Business คือ ธุรกิจที่ให้ ความสำคัญกับสังคม และผู้คนโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นทางตรง หรือทางอ้อมภายใต้สโลแกนที่ว่า เคียงข้างทุกชีวิตทั้งของผู้ที่เป็นลูกค้าบริษัท และทุกชีวิตของคนไทยในสังคม
“สิ่งที่ผมทำอยู่เสมอคือปรับเปลี่ยนความเชื่อ และค่านิยมที่ดีให้กับบรรดาตัวแทนกรมธรรม์ประกันชีวิตว่า พวกคุณไม่ได้ขายแค่กรมธรรม์ประกันชีวิต เพราะสิ่งที่สำคัญมากกว่า คือ การขายความไว้วางใจ ขายการดูแล การเอาใจใส่ และความเอื้ออาทร สิ่งนี้จะต้องเป็นจุดยืนของไทยประกันชีวิตตลอดเวลา และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้เราเป็นเสมือนเพื่อนที่รู้ใจ พร้อมยืนอยู่เคียงข้างคุณ และทำทุกอย่างอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ทุกช่วงชีวิตของลูกค้าเป็นไปอย่างมั่นคง”
กรรมการผู้จัดการใหญ่ไทยประกันชีวิต กล่าวด้วยว่า หัวใจสำคัญของการดูแลลูกค้าให้ดีก็คือ ต้องมีความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ขณะเดียวกันก็ต้องไม่หยุดที่จะบุกเบิก คิดค้น หาคำตอบใหม่ๆในเรื่องการประกันชีวิตเพื่อตอบสนองในทุกสถานการณ์ในแต่ละช่วงชีวิตที่เปลี่ยนไป ภายใต้เป้าหมายให้บริษัทไทยประกันชีวิต ซึ่งขณะนี้มีอายุ 72 ปีแล้ว ให้มีอายุยืนยาวไปจนถึง 100 ปีให้ได้
สำหรับวิสัยทัศน์ใหม่ บริษัทจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับคนเป็นหลัก โดยให้ความสำคัญทั้งคนภายใน และผู้คนในสังคมด้วยการพัฒนา และผลักดันให้บุคลากร สำนักงานใหญ่ และสาขา ให้เป็นมากกว่าพนักงานบริษัทประกันชีวิต แต่ต้องคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงให้ความสำคัญกับการทำความดีด้วยการส่งเสริมให้บุคลากรมุ่งทำประโยชน์เพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง “นับจากนี้ไป ไทยประกันชีวิตจะต้องเป็นองค์กรที่อยู่เคียงข้างสังคมไทย และยืนอยู่ได้อย่างมั่นคงยั่งยืน ผลของการทำธุรกิจไม่ได้หวังให้เกิดกำไรสูงสุด แต่ธุรกิจหรือองค์กรของเราต้องรู้จักเท่าทันกระแสโลก แต่ไม่ใช่ไหลบ่าตามกระแสไป”
บุคลากรฝ่ายขาย ต้องพัฒนาจากการเป็น Life Planner คือ ผู้วางแผนดูแลชีวิต สู่การเป็น Life Partner เสมือนเป็นคู่ชีวิต เป็นเพื่อนคู่คิดในทุกสถานการณ์ สำหรับผู้เอาประกันหรือคนในสังคมด้วยการเป็นคนเก่ง เป็นผู้รอบรู้ และรู้รอบ เพื่อเป็นผู้ตอบคำถามในทุกคำตอบให้แก่การประกันชีวิต ขณะเดียวกันต้องเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม มโนธรรม และผู้ให้ บุคลากรของไทยประกันชีวิตจึงต้องเรียนรู้ และไม่หยุดคิดค้น เพื่อให้ทันทุกสถานการณ์ และสามารถเติมเต็มความมั่นคงให้กับลูกค้าและสังคมได้
สำหรับโลโก้ใหม่ “ไทยประกันชีวิต” จะมีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้ผู้คนจดจำได้ง่าย พร้อมปรับลดโทนสีจากสีน้ำเงินเข้ม เป็น สีเซลูเลียน บลู หรือสีฟ้าน้ำทะเล เพื่อให้แบรนด์ดูทันสมัย มีชีวิตชีวา มีความเป็นมิตร และเพิ่มพลังแห่งความคิดสู่เป้าหมายเดียวกันภายใต้รูปทรงโลโก้ของสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ซึ่งแสดงถึงการพุ่งไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่นอย่างมีทิศทาง พร้อมที่เดินเคียงคู่ทุกชีวิตสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนในอนาคต
ทิศทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ จึงต้องสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ใหม่ และการรีแบรนด์ตราสัญลักษณ์ใหม่ด้วย และสำหรับการรองรับการแข่งขันที่รุนแรงในปัจจุบัน บริษัทจึงต้องมีนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องทบทวนแผนหรือรูปแบบการประกันชีวิตใหม่ หากแบบประกันใดไม่ตรงตามความต้องการของลูกค้า ก็ต้องปรับเปลี่ยน รวมถึงปรับปรุงเงื่อนไขต่างๆให้สอดรับกับสภาพแวดล้อมต่างๆด้วย
นายไชยเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ไทยประกันชีวิตได้พันธมิตรใหม่อย่าง เมจิ ยาซึดะ ไลฟ์ อินชัวรันส์ จำกัด บริษัทประกันชีวิตใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น ซึ่งจะเข้ามาถือหุ้นในไทยประกันชีวิตเป็นสัดส่วน 15% เพื่อเข้ามาดูแลงานด้านการบริหารความเสี่ยง “ญี่ปุ่นมีประสบการณ์เรื่องนี้ดีเพราะเคยประสบปัญหาเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่มาแล้ว และบริษัทประกันในญี่ปุ่นก็ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมา เราอยากได้ความรู้ในเรื่องการบริหารความเสี่ยงต่างๆที่เป็นหัวใจสำคัญของการประกันชีวิต”
ที่สำคัญ ญี่ปุ่นได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ดังนั้นจึงต้องการให้พันธมิตรแนะนำลูกค้ารายบุคคลให้กับไทยประกันชีวิตด้วย ขณะที่การลงทุนในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เป็นจำนวนมากของญี่ปุ่น จะต่อยอดให้ไทยประกันชีวิตดำเนินธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านใน AEC ได้ดีกว่าไปทำธุรกิจเอง และพันธมิตรเองก็จะได้ประโยชน์จากฐานลูกค้าในกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน
“หลังจากปรับองค์กรและรีแบรนด์แล้ว สิ่งที่ผมอยากเห็นคือ การเป็นบริษัทประกันชีวิตที่อยู่ในหัวใจคนไทยเสมอ และเป็นเบอร์ 1 ในทุกๆโอกาสที่เราต่างก็มีความรักให้แก่กัน และเห็นคุณค่าของชีวิตกันและกัน แน่นอนว่า มันไม่ใช่เรื่องของการต้องมีส่วนแบ่งในตลาดสูงสุด หรือมีกำไรสูงสุด” นายไชย กล่าวทิ้งท้าย.

By
http://www.thailifeclub.com
http://cyber.thailife.com/01253940