วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557

บทเรียนจากนกอินทรี

   นกอินทรีเป็นสัตว์ที่ถูกสร้างโดยพระเจ้า เป็นนกที่สง่างามเหนือบรรดานกทั้งหลาย โดยทั่วไปแล้วนกอินทรีที่โตเต็มที่สูงถึง 90 เซนติเมตร และเมื่อกางปีกอาจจะยาวถึง 2 เมตรเลยทีเดียว มันจะสร้างรังอยู่ที่หน้าผาหรือต้นไม้สูง รังของมันจะใหญ่มากขนาดที่มนุษย์สามารถเข้าไปนอนหลับอย่างสบายได้เลย โดยรังของมันอาจมีน้ำหนักถึง 700 กิโลกรัม นกอินทรีเป็นนกที่มีชีวิตยืนยาวที่สุดในบรรดาสัตว์ปีก มันสามารถมีชีวิตได้นานถึง 70 ปี แต่ก่อนที่จะอยู่ได้นานถึงปานนั้นได้ นกอินทรีจะต้องมีการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของมัน เมื่ออายุได้ 40ปี ตอนนั้นกรงเล็บของมันที่แข็งแกร่ง และยืดหยุ่นของมันจะไม่สามารถจับสัตว์เป็นอาหารได้อีก ทำให้ร่างกายของมันอ่อนแอเกินกว่าจะบินขึ้น และหาอาหารอย่างเข้มแข็งได้อีก ส่วนจะงอยปากที่แหลมคมเริ่มโค้งงอ กรงเล็บเริ่มใช้การไม่ค่อยได้ ปีกที่หนาและหนัก ขนที่ยาวรุงรังจะไปรวมที่อกของมัน ทำให้มันบินได้ลำบากมากขึ้น และเมื่อนั้นมันมีทางออกอยู่ 2 ทางคือ 1.ตายไปซะ 2.จะตัดสินใจที่จะอยู่ต่อไป แต่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดอย่างสุด ๆ กับขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงชีวิต ซึ่งจะเป็นระยะเวลายาวนานถึง 150 วัน

ขั้นตอนที่มันตัดสินใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป มันจะบินต่อไปบนยอดภูเขาสูงและอยู่ที่รังของมัน มันจะต้องใช้จะงอยปากของมันที่โค้งทื่อจิกเตะกับก้อนหิน และกรงเล็บกระแทกไปที่ก้อนหินด้วย ครั้งแล้วครั้งเล่าจนกระทั่งจะงอยปากมีเลือดไหล และหลุดออกมา หลังจากนั้นมันจะรอให้จะงอยปากอันใหม่งอกขึ้นมา ทีนี้ถึงคราวของกรงเล็บก็จะงอกขึ้นมาใหม่ต่อจากจะงอยปาก หลังจากนั้นมันจะเริ่มใช้จะงอยปากใหม่จิกถอนขนที่ดกหนาออกทิ้งเสีย เป็นการผลัดขนใหม่ทั้งหมด หลังจากนั้น 150 วันผ่านไป ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงก็จะเสร็จสมบูรณ์ นกอินทรีก็จะบินสูงทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง พร้อมกับร้องเสียงดังก้องสะท้านฟ้า คล้ายดังเป็นการประกาศก้องว่า ข้ากำเนิดใหม่แล้ว และจะมีชีวิตที่ยืนยาวและเข็มแข็งอีกต่อไปได้

พระคริสตธรรมคัมภีร์ได้เปรียบเทียบชีวิตของมนุษย์เรา ยามเมื่ออ่อนเปลี้ย ท้อแท้ หมดหวัง กับการดำเนินชีวิตในโลกนี้ว่า "พระเจ้าทรงประทานกำลังแก่คนที่อ่อนเปลี้ย และแก่ผู้ไม่มีกำลัง พระองค์ทรงเพิ่มแรง แม้คนหนุ่ม ๆ จะอ่อนเปลี้ย และเหน็ดเหนื่อย และชายฉกรรจ์จะล้มลงทีเดียว แต่เขาทั้งหลายผู้รอคอย พระเจ้าจะเสริมเรี่ยวแรงใหม่ เขาจะบินขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรี เขาจะวิ่งและไม่เหน็ดเหนื่อย เขาจะเดินและไม่อ่อนเปลี้ย" บทเรียนจากนกอินทรี ทำให้เราเรียนรู้ว่า
1.เมื่อเราอยู่ในภาวะอ่อนแอเกินกว่าที่จะต่อสู้กับปัญหาใด ๆ ได้ อย่าเพิ่งหมดหวัง ท้อแท้ สิ้นหวัง หรือเก็บความขมขื่นไว้ พระเจ้าทรงเตรียมขบวนการเปลี่ยนแปลงเพื่อเราจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ไว้ให้กับเราแล้ว

2.จงเปลี่ยนจะงอยปากและกรงเล็บเสียใหม่ สำหรับนกอินทรีจะงอยปากและกรงเล็บเป็นอาวุธและเครื่องมือในการหาเหยื่อ และกินเหยื่อ นั่นหมายความว่า มันตอบสนองความต้องการของตัวมันเอง หากเปรียบจะงอยปากและกรงเล็บของนกอินทรีกับตัวเรา ก็คงเป็นเหมือนความต้องการของตัณหา ความอยากของเราที่ไม่ดีไม่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า มีแล้วอาจจะทำให้เราเสียคนในอนาคตได้ เพราะพระเจ้าทรงรู้ล่วงหน้าสำหรับอนาคตของทุกคน คำว่าตัณหา ตามความเข้าใจของคริสเตียนแล้วเป็นเนื้อหนัง ที่พระคำของพระเจ้าได้กล่าวไว้ว่า "การงานของเนื้อหนังนั้นเห็นได้ชัดคือ การล่วงประเวณี การโสโครก การลามก การถือวิทยาคม การเป็นศัตรูกัน การริษยากัน การเมาเหล้าและการเล่นเป็นพาลเกเร" ถ้าหากเราเต็มใจจะถอดจะงอยและกรงเล็บเสีย ชีวิตของเราก็เปลี่ยนใหม่ จะวิ่งอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย และจะเดินอย่างไม่อ่อนเปลี้ย

3.ผลัดขนใหม่ทั้งหมด สำหรับนกอินทรี ขนที่ดกหนาที่หน้าอกทำให้มันเหนื่อยแรงเป็นภาระ เป็นตัวถ่วง และกินแรงในการบิน ทำให้มันอ่อนแอ ไม่ว่องไวเหมือนเดิมในการล่าเหยื่อ และการดำรงชีวิตอยู่ คุณผู้ฟังคะหากเราไม่ต้องการที่จะอ่อนแอเกินกว่าที่จะมีชีวิตอยู่ได้ เราต้องยอมถอดสิ่งที่เป็นตัวถ่วงออกไปจากชีวิตของเราเสีย เหมือนถอดเสื้อผ้า อะไรบ้างที่เราต้องถอด พระคริสตธรรมคัมภีร์กล่าวไว้เช่นนี้ "แต่บัดนี้สิ่งสารพัดเหล่านี้ท่านจงเปลื้องทิ้งเสีย คือ ความโกรธ ความขัดเคือง การคิดปองร้าย การพูดใส่ร้าย คำพูดหยาบโลน อย่าพูดมุสาต่อกัน เพราะว่าท่านได้ปลดวิสัยมนุษย์เก่ากับการปฏิบัติของมนุษย์นั้นเสียแล้ว และได้สวมวิสัยมนุษย์ใหม่ที่กำลังสร้างขึ้นใหม่ ตามพระฉายของพระองค์ผู้ทรงสร้างให้รู้จักกับพระองค์"

By
http://www.thailifeclub.com
http://cyber.thailife.com/01253940

ชีวิต..กับ..การเลี้ยงลูกแบบ..นกอินทรี

        หลายคนคงรู้จักและได้ยินชื่อ..นกอินทรี...นกขนาดใหญ่..ที่มีสายตาที่เฉียบคม..มองได้ไกล..เหมือนกล้องสอ่งทางไกล..แม้บินอยู่บนที่สูง..ก็มองเห็นเหยื่อตัวเล็กๆ..บนพื้นล่างได้ และบินโฉบลงมาจับกินได้อย่างง่ายดาย..และรวดเร็ว ในนิทานเราก็เคยได้ยิน นกบินลงมาจับทารกน้อยไป..

       หลายประเทศใหญ่ๆ..มักใช้นกอินทรี..เป็นสัญลักษณ์..อินทรีย์..แปลว่า..ใหญ่..นกอินทรีก็คือนกขนาดใหญ่...ร่างกายของเรา..มี อินทรีย์ ๖ อยู่ในร่างกาย ซึ่งเป็นใหญ่เฉพาะด้าน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทั้ง ๖ อย่างต่างเป็นใหญ่ในแต่ละด้าน ตา เป็นใหญ่ ทางการมองเห็น , หูเป็นใหญ่..ทางการได้ยิน...เรียงลำดับไปอย่างนี้

นกอินทรี..มีวิธีการเลี้ยงลูก..ที่แปลก..และน่านำมาประยุกต์ใช้กับการเลี้ยงลูกได้

ก่อนวางไข่...แม่นกพ่อนก..จะช่วยกันสร้างรัง..บนชะง่อนผาที่สูงชัน..ยากที่จะสิ่งรบกวนได้ ปลอดภัยจากสัตว์ร้ายอื่นๆ รวมทั้งมนุษย์ด้วย

ชั้นที่ ๑ จะเป็นก้อนหิน ก้อนใหญ่ๆ วางล้อมกรอบเป็นวงขนาดพอตัว

ชั้นที่ ๒ จะเป็นท่อนไม้ท่อนโตๆ วางไขว้กันไปมา..ให้แข็งแรง

ชั้นที่ ๓ จะเป็นหนามขนาดใหญ่..วางพลาดระหว่าง.ท่อนไม้ ซ้อนไปมา

ชั้นที่ ๔ จะเป็นใบไม้วางหนาๆ..เพื่อป้องกันหนามที่แหลมคม และเป็นพื้นนอนได้

ชั้นที่ ๕ แม่นกจะจิกขนอ่อนที่อกของตน..เพื่อให้เกิดที่นอนนุ่นๆสำหรับลูกอ่อน

พอสร้างรังครบทั้ง ๕ ขั้นตอนแล้ว..แม่นกอินทรี ก็ได้เวลาวางไข่ ราวๆ ๓-๕ ฟอง และกกไข่เป็นเวลาพอสมควร..จนไข่ฟักออกมาเป็น..ลูกนกอินทรี..ตัวเล็กๆ..เสียงเจื้อยแจ้ว..น่ารักๆ

พ่อนก..แม่นก..ช่วยกันหาอาหารมาป้อนลูกน้อย..จนเติบโต..พอที่จะช่วยตัวเเองได้บ้างแล้ว



ขั้นตอนสำคัญ..ของการฝึกลูกนกอินทรี..ก็มาถึง..

ขั้นที่ ๑ แม่นกเริ่มจิกเอาขนนุ่มๆ..ออกจากรัง..ลูกๆเริ่มลำบาก..นอนไม่สบายเหมือนเดิม แรกๆก็ร้องลั่น..งอแง..แต่แม่นกก็อดทน..จนลูกเริ่มปรับตัวได้

ขั้นที่ ๒ เอาใบไม้ออกจากรังจนหมด...คราวนี้แย่แล้ว...เหลือแต่หนาม..ลูกนกจะนอนได้อย่างไร..ต้องพยายาม..นอนบนหนามให้ได้..จนต่อมา..ลูกนกเริ่มสนุก..กับการนอนบนหนาม..พลิกซ้าย ขวา ก็ต้องโดนหนามทิ่ม..ต้องมีสติเสมอ

ขั้นที่ ๓ เอาหนามออก..คราวนี้ ก้ามเนื้อขา ของลูกนกเริ่มแข็งแรง สามารถเกาะกิ่งไม้ หลับนกได้..สบายๆ แม่นกฝึกจนลูกๆ แข็งแรง เกาะกิ่งไม้ได้อย่างมั่นคงปลอดภัย

ขั้นที่ ๔ เอากิ่งไม้ออก..เหลือเฉพาะรากฐานที่เป็นก้อนหิน..คราวนี้..นอนบนกองหินได้.พื้นแข็งๆ..ลำบาก ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดอีกแล้ว จนลูกนกอดทนได้..ลูกทุกตัวมีความพร้อมที่จะฝึกบินได้แล้ว

ขั้นที่ ๕ ฝึกบิน....คราวนี้ สนุกครับ

....พอแค่นี้ก่อนครับ..พักสักครู่..จะมาเล่าต่อ ตอนที่นกอินทรี ฝึกลูกนกให้บิน สนุกมากๆ ไม่น่าเชื่อว่า แม้แต่นก ยังสมารถฝึกลูกนกได้ดีขนาดนี้..โปรดติดตามครับ

เล่าต่อครับ..ได้เวลาที่นกอินทรี ฝึกลูกให้บิน แม่นก จะคาบลูกนก ทีละตัว บินขึ้นไปบนอากาศ ....ท้องฟ้าที่เวิ้งว้าง...ลมเย็นๆ..ลูกนกได้เห็นมุมมองของโลกอีกมุมหนึ่ง..ที่กว้างไกล บินไปทั่วๆรอบบริเวณ อาณาจักร ของนก แล้วนำกลับมาที่รัง ผลัดเปลี่ยนลูกนกตัวอื่นๆ เวียนจนครบทุกตัว

วันต่อๆมา คราวนี้ไม่คาบแล้ว....แม่นกแหย่ปีกลงไปที่รัง...ลูกนกตะกายขึ้นมาบนปีกของแม่....แล้วแม่นก..ก็พาบินขึ้นสู่ท้องฟ้า...คราวนี้ลูกนก..เหมือนนั่งเตรื่องบินจัมโบ้...ว๊าว...สนุกอะไรแบบนี้...ตาของลูกนกจ้องไปที่ข้างหน้า ดูโลกอันงดงามเบื้องหน้า...วิเศษ.จริงๆแม่...ลูกนกยิ้มอย่างอารมณ์ดี...เอาอีก...เอาอีก...ลูกนกร้องขอ...พอแล้วลูก...ว่าแล้วแม่นกก็...พาลูกนก..กลับมาคืนรัง พาลูกตัวอื่นๆขึ้นไปบ้าง.....โอ้โห...เล่ามาถึงตรงนี้....ชีวิต..ที่แม่นกอินทรีฝึกลูกนกให้บิน..มันสนุกอย่างนี้นี่เอง

ลูกนก...ตื่นเต้นดีใจ..รอคอยเมื่อไหร่ แม่จะกางปีกพาบินอีกบ้าง....

ขั้นตอนสำคัญ

คราวนี้...แม่นก..พาบินทีละตัว...แม่นกบินโบกไปมาอย่างรวดเร็ว...เดี๋ยวขึ้น..เดี๋ยวลง...นึกถึงเครื่อง F 16 ที่บินโฉบ...อย่างรวดเร็ว...อะไรแบบนั้น

แม่นกพาบินขึ้นสูง...สูงขึ้น.จนสุดแรง...จนลูกนก..ใจหวิว..ว่าแล้วไม่ทันตั้งตัว...แม่นกสลัดปีกอย่างแรง...ลูกนกตัวน้อย..ลอยคว้างกลางอากาศ.....ลอยละลิ่วตกลงมา...อย่างรวดเร็ว...

ลูกนกตกใจ...ร้องลั่น...พรางขยับปีกไปมา...เพื่อประคองตัวเอง...แต่ร่างของลูกน้อย..ล่วงหล่นลงพื้นอย่างเร็ว...มิทันขยับปีก...แม่นกบินโฉบ..ลงมารับลูก..ก่อนถึงพื้น..ได้อย่างแม่นยำ..ไม่มีพลาด...ใจหายใจคว่ำ...พาลูกนกกลับมารังอย่างปลอดภัย...

แล้วแม่...ก็ฝึกลูกๆ...แบบนี้ทุกตัว...จนลูก..กางปีก..ร่อนกลางอากาศได้....จนกระทั่งลูกนก...บินไปพร้อมๆแม่ได้....

เล่ามาถึงตรงนี้....ชื่นชม..และอดภูมิใจกับลูกนกไม่ได้..ที่มีพ่อแม่..เลี้ยงลูก...อบรมลูก..ฝึกลูก..ได้เป็นขั้นเป็นตอน..ได้ดีถึงเพียงนี้...จนลูกนก..เติบใหญ่ ปีกกล้า..ขาแข็ง...อย่างที่เราๆเรียกกัน...หากินเองได้

แล้วลูกคนล่ะ...เราทำได้ดีถึงเสี้ยวหนึ่ง..ของนกอินทรี..ฝึกลูกหรือไม่...


By
: http://www.thailifeclub.com
: http://cyber.thailife.com/01253940